Thursday, October 24, 2019

Pre-O-Net1 (Conversation)

Unit 1  :  Pre-O-Net

การสอบ O-NET ถือเป็นการสอบระดับชาติ นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 ทุกคนต้องสอบ 

O-NET (ย่อมาจาก  Ordinary National Educational Test)

คือ การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน  เป็นการทดสอบเพื่อวัดความรู้และความคิดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ประเมินตามมาตรฐานการเรียนรู้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 

วัตถุประสงค์ O-NET
  1. เพื่อทดสอบความรู้และความคิดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
  2. เพื่อนำผลการทดสอบไปใช้เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการจบการศึกษา  ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
  3. เพื่อนำผลการทดสอบไปใช้ในการปรับปรุงคุณภาพการเรียนการสอนของโรงเรียน
  4. เพื่อนำผลการทดสอบไปใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนระดับชาติ
  5. เพื่อนำผลการทดสอบไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่น
ความสำคัญของการสอบ O-Net
         คะแนนสอบ O-NET ยังสามารถนำไปใช้ในการสมัครเข้าศึกษาต่อได้ด้วยนะ โดยเฉพาะน้องๆ ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.6 ต้องนำคะแนน O-NET มาใช้ในการสอบเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยด้วย (นอกจากนี้ยังมีผลคะแนน GAT/PAT, 9 วิชาสามัญ ที่นำมาใช้ประกอบกันอีกด้วย)

สรุป  O-NET ม.6 มีสำคัญดังนี้

  1. คะแนน O-NET จะติดตัวเราไปตลอด
  2. การสอบ O-NET จัดสอบโดย สทศ. และสามารถสอบได้เพียงครั้งเดียว
  3. ถ้าขาดสอบ หรือไม่ได้เข้าสอบวิชาใดวิชาหนึ่ง ก็จะไม่มีสิทธิ์ในการสมัครแอดมิชชั่น
  4. บางคณะ/สาขาวิชาของมหาวิทยาลัยจะใช้คะแนนสอบ O-NET วิชาภาษาอังกฤษ เป็นเกณฑ์ในการจัดห้องเรียนภาษาอังกฤษด้วย

O-NET เกี่ยวกับข้องกับสอบเข้ามหาวิทยาลัย

            คะแนนสอบ O-NET ถือว่าเป็นสิ่งที่สำหรับการสอบเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย เพราะเป็นคะแนนที่บ่งบอกถึงความรู้ทางวิชาการขั้นพื้นฐาน ที่ทางมหาวิทยาลัยจะนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในเกณฑ์การพิจารณาเข้าเรียนต่อ ดังนั้นเราจึงต้องเข้าสอบ O-NET และนำหลักฐานผลคะแนนมายื่นในการสมัครเข้าเรียนต่อด้วย โดยคะแนน O-NET สามารถที่จะใช้ยื่นรับตรงและแอดมมิชชั่นได้ ดังนี้

1. รับตรง กสพท 

สำหรับการสมัครรับตรงในกลุ่ม กสพท จะไม่ได้นำคะแนนสอบ O-NET มารวมในน้ำหนักของคะแนน แต่มีเงื่อนไขว่านักเรียนที่สมัครสอบ กสพท จะต้องมีคะแนน O-NET รวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 (ใน 5 กลุ่มสาระวิชา)

2. รอบแอดมิชชั่น

ในรอบแอดมิชชั่น สำหรับนักเรียนทั่วไป (รอบที่ 4 ในระบบ TCAS) จะใช้คะแนน O-NET เป็นองค์ประกอบในการคัดเลือก โดยจะมีค่าน้ำหนักคะแนนร้อยละ 30 และในบางคณะ/สาขาวิชาจะมีการกำหนดคะแนนขั้นต่ำของ O-NET เอาไว้ด้วย

3. รับตรงในบางโครงการ

สำหรับบางคณะ/สาขาวิชาในบางมหาวิทยาลัยจะมีการเปิดรับสมัครตรงเอง โดยจะมีการกำหนดเกณฑ์ต่างๆ เอง โดยนอกจากจะมีการสอบ เกรดเฉลี่ยสะสมแล้ว บางโครงการยังมีการกำหนดให้ต้องใช้คะแนนสอบ O-NET ด้วย
O-NET ประกอบด้วย 5 วิชาด้วยกัน ได้แก่ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย สังคมศึกษาฯ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ 
ครูพัชรินทร์ รวบรวมเทคนิคการทำข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษบบง่าย  ดังต่อไปนี้
1.  เทคนิคการทำข้อสอบ "Conversation"
2.  เทคนิคการทำข้อสอบ "Error Identification"
3. เทคนิคการทำข้อสอบ  "Reading"

Pre-O-Net1 (Conversation)

1.   เทคนิคการทำข้อสอบ "Conversation" (บทสนทนา)
      เทคนิคการทำข้อสอบบทสนทนา มีดังต่อไปนี้     
-  สำรวจเนื้อหา  โดยอ่านบทสนทนาคร่าวๆ
-  สรุป  สรุปคร่าวๆว่าใครคุยกับใคร คุยเรื่องอะไร  เป็นอย่างไรหรือคุยเพื่ออะไร  หรือเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ
-  สรรหาคำตอบ  โดยพิจารณาเลือกคำตอบที่สัมพันธ์ต่อเนื่องกับความหมายแวดล้อมได้อย่างดี  (คำถามหรือข้อความข้างหน้า ข้างหลัง) สุภาพและเหมาะสมกับสถานภาพคู่สนทนา

ข้อสังเกตในการทำข้อสอบบทสนทนาทั้งสั้นและยาว (Short and long conversation)

1. ถามและตอบเป็นเรื่องเดียวกัน หมายถึง เนื้อเรื่องที่กำลังอ่านอยู่นั้นต้องเชื่อมโยงเป็นเรื่องเดียวกัน
2. ใครพูดกับใคร ให้รู้กาลเทศะ ซึ่งในเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับระดับของภาษาที่ใช้ เช่น เพื่อนคุยกับเพื่อน เด็กคุยกับผู้ใหญ่ นิสิตหรือนักศึกษาคุยกับอาจารย์ เจ้านายคุยกับลูกน้อง เป็นต้น ระดับของภาษาก็จะแบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ ภาษาที่เป็นทางการ (Formal) และ ภาษาที่ไม่เป็นทางการ (Informal/ Colloquial) ซึ่งคำว่าเป็นทางการ กับ ไม่เป็นทางการ หมายถึง ความสุภาพในการใช้ภาษา
3. ศัพท์และสำนวนที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ที่ปรากฏอยู่ในบทสนทนาในแต่ละสถานการณ์และสถานที่
                3s Strategyของครูพี่แนน
                1. Situation ต้องดูสถานการณ์ โดยต้องมีลักษณะเฉพาะที่สามารถคาดเดาได้ เช่น การกล่าวคำทักทาย ขอโทษ ขอบคุณ การเข้าร้านอาหาร การถามเส้นทาง การเดินทางโดยเครื่องบิน รถไฟ โดยอยู่ที่สถานี การจองห้องพัก โรงแรม การซื้อขายสินค้า การโทรศัพท์ และ สถานการณ์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ หมายถึง การคาดเดาสถานการณ์ได้ลำบาก เช่น การด่าแท็กซี่  การบ่น การขึ้นลิฟท์โดยบอกคนให้กดลิฟท์ให้ เป็นสิ่งที่มักจะเกิดในชีวิตประจำวันบ่อยๆ ไม่มีรูปแบบ แบบแผนโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้น วิธีการทำ ต้องดูก่อนว่าบทสนทนานั้นอยู่ในสถานการณ์แบบไหน
                2. Status สถานภาพ ต้องรู้สถานภาพเพื่อที่จะใช้ภาษาได้อย่างเหมาะสมในบทสนทนานั้นๆ
                3. Speaker ผู้พูด คือ ในบทสนทนานั้นมีคนพูดอยู่กี่คน และใครกำลังเป็นคนพูดอยู่


Exercise  :  Conversations
A:  Directions:  Choose the most appropriate answer.
1.  John asks Mary if she needs any help. She doesn’t, so she replies:  “……………”
a.  I certainly hope not.
b.  No, thank you.
c.  I’m thinking about it.
d.  Thanks, but I needn’t.
 2.  You are an exchange student abroad.  You visit someone’s house and the host says : “…………….”
a.  Try to be comfortable.
b.  Please act like you do in your home.
c.  Make yourself at home.
d.  Please sit here and act like yourself.

3.  You accidentally step on someone’s foot.  You say : “……………..”
a.  Be careful
b.  That’ s my error.
c.  I’m so sorry.
d.  How about that.

4.  Mr. Smith has just been promoted to president of your company.  You are happy for him.  When you meet him, you say : “…………….”
a.  Lucky for you.
b.  Congratulations.
c.  Fine promotion.
d.  Better luck next time.

5.  Your boss’s wife offers you a piece of cake, but you dislike that kind of cake so you say : “……………….”
a.  I hate that cake.
b.  Thanks, but I’m on a diet.
c.  Not another one.
d.  Don’t you have anything better?

6.  You are waiting in line to buy a movie ticket when someone cuts in front of you.  You say : “……………..”
a.  Hold on.  I’ll put you through.
b.  Wait for me.
c.  Go to the back of the line.
d.  I’ll save you a place.

7.  Your friend just failed an important test.  To cheer her up, you say : “………….”
a.  You’re hopeless.
b.  I got an A.
c.  Look forward to doing it again.
d.  It’s not the end of the world.

8.  You’re handing in your assignment to your teacher very late.  You say : “……….”
a.  I’m so sorry.
b.  Better late than never.
c.  It’s now or never.
d.  How can I ever repay you?

9.      You are in your neighbor’s house.  You break a glass. Your neighbor says : “……”
a.       You’re welcome.
b.      Don’t mention it.
c.       How could you do such a thing!
d.      Don’t worry about it.

10.  You can’t hear the news on the radio so you say to your American friend, “…..”
a.  Could you pick it up, please?
b.  How about switching it on?
c.  Would you mind turning it up?
d.  Can you please put it on?

11.  You ask to speak to your boss on the phone.  You say, “………..”
a.  I’d like Mr. Baxter to speak to me.
b.  I intend to talk to Mr. Baxter.
c.  Can you direct me to Mr. Baxter?
d. Could you put me through to Mr. Baxter?

12.  You are in Bangkok, talking to your friend in Singapore.  You mention that you are flying down next weekend.  Your friend says, “………..at the airport.”
a.  I’ll pick you up
b.  I’ll go and receive you
c.  I’ll come after you
d.  I’ll be there for you

13.  Your friend tells you that her father just lost his job.  You say, “………..”
a.  All’s well that ends well.
b.  It’s all for the best.
c.  Don’t mention it.
d.  I’m sorry to hear that.

14.  Someone calls your office and asks to speak to your boss.  You say, “………”
a.   Would you please call me again?
b.  What do you want?
c.  Could I have your name, please?
d.  Who are you?

15.  You are in class and need to go to the bathroom.  You say to your teacher, “……”
a.  May I leave the room?
b.  I want to go away now.
c.   Just a moment, please.
d.  Must I go out now, please?

16.  The students are very noisy.  The teacher says, “……………”
a.  Stay calm.
b.  Speak up.
c.  Come down.
d.  Keep quiet.

17.  Your friend is about to cross the street and he doesn’t see a fast-approaching car.  You shout, “………..”
a.  Look up!
b.  Run fast!
c.  Watch out!
d.  Hurry up!

18.  You hear your friend use an English word that you don’t know so you ask, “……”
a.  Can that be written?
b.  How can you spell that?
c.  Must you say that again?
d.  What does that mean?

19.  You are meeting a friend at Don Muang airport.  The first thing you say is, “…..”
a.  Good afternoon.  Did you fly?
b.  Let’s find a way to go to town.
c.  I’ve waited a long time to meet you.
d.  Hi! Did you have a good flight?

20.  You meet a friend who has just had her car stolen.  You say, “…………”
a.  Very disappointed in you.
b.  Never more excited for you.
c.  Really sorry to hear the news.
d.  Can’t stand such a loss.

B:  Situation: Rose is complaining to Mike, her colleague, that her notebook is not functioning.
Rose: Oh, no. Not again.
Mike: 21 ……………………………………….
Rose: My notebook is not working properly. I can't print out my data.
Mike: 22 ……………………………………….
Rose: Of course I have.
Mike: _23_................................................. Have you switched the printer on?
Rose: Yes, I have. I always have problems with my notebook.
Mike: 24 ……………………………………….
Rose: Please. I'm really fed up with this machine. 15 …………………………….
Mike: Hang on. Your notebook is okay. The problem is with the printer.
21.       1. How is it?
2. How come?
3. What's wrong?
4. What about that?
            5. Why did you say so?

22.       1. Did you lose your data?
2. Do you know how to use it?
3. Did you use the right printer?
            4. Have you seen the new printer?
5. Have you connected it to the printer?

23.       1. How old is it?
2. How was the printer?
            3. How long have you got it?
4. What about the printer?
5. Where was your printer?

24.       1. Let's look after it.
            2. What if I look after it?
3. Must I look at it?
4. Let me have a look at it.
5. Perhaps I may take a look.

25.       1. What should I buy?
2. Can we get rid of it?
3. I want to get rid of it.
4. Shall we buy another one?
5. May I buy a new one?

C:  Directions: Read each sentence and choose the alternative that BEST completes it.
26. The boy claimed that the pencil box belonged to him, but soon everybody found out that he _.
1. is lying
2. tells a lie
3. has told a lie
4. had told a lie
5. has been lying

27. The little girl held her mother' s hand firmly_ the other side of the street.
1. if they walk along
2. until they walked to
3. when they walk down
4. as they walked over
5. before they walked through

28. Why didn't you something to the taxi driver?
1. who has brought your briefcase to you
2. whom your briefcase you brought to
3. that he brought you your briefcase
4. that to you he brought your briefcase
5. who brought you your briefcase

29. The Boy Scouts had to take _ to the camp, each can:ying a heavy backpack.
1. a two-mile hike
2. a two miles hike
3. a two-miles' hike
4. a hike in two miles
5. two miles on a hike

30. The customer wanted to know
1. she could find a can of baked beans where
2. where could she find a can of baked beans
3. a can ofbaked beans was where she could find
4. where she could find a can of baked beans
5. she could find where was a can of baked beans


                                                                                                        ➤➤➤➤➤➤➤➤➤➤
                                                                                                                                ➤➤➤➤➤➤➤➤➤➤
Happyness belong to the contented. 
บุคคลจะมีความสุขหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความพอใจ
Don’t shrink any task because of its arduousness. 
อย่าละทิ้งงานใดๆ เพียงเห็นว่างานนั้นยาก
➤➤➤➤➤➤➤➤➤➤
➤➤➤➤➤➤➤➤➤➤

Kru Noi Patcharin  Kanwana

The English Teacher





No comments:

Post a Comment