"The Sound of Silence"
* เพลง เดอะซาวด์ อ๊อฟ ไซเลนซ์ เป็นเพลงของศิลปิน ไซมอนแอนด์การ์ฟังเกล ในอัลบั้ม "The Sound of Silence"
* ไซมอนแอนด์การ์ฟังเกล (อังกฤษ: Simon & Garfunkel) เป็นศิลปินคู่แนวโฟล์กร็อก คำว่า ไซมอนและการ์ฟังเกล มาจากนามสกุลของ พอล ไซมอน และ อาร์ต การ์ฟังเกล ไซมอนแอนด์การ์ฟังเกลได้กลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่ทำยอดจำหน่ายสูงสุดในยุคทศวรรษที่ 1960 เป็นหนึ่งในกลุ่มศิลปินที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของการแสดงออกถึงวัฒนธรรมต่อต้าน ในช่วงยุคทศวรรษแห่งการปฏิวัติทางสังคม ร่วมกับเดอะ บีทเทิลส์, บ็อบ ดิลลัน , เดอะบีชบอยส์ และ นีล ยัง โดยทั้งคู่มีผลงานเพลงร่วมกันทั้งหมด 5 สตูดิโออัลบั้ม มีเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างมากได้แก่ "The Sound of Silence" (1964), "Mrs. Robinson" (1968), "The Boxer" (1969) และ "Bridge over Troubled Water" (1970) โดยเพลงดังกล่าวล้วนขึ้นอันดับหนึ่งของชาร์ตเพลงทั่วโลก
* สำหรับเพลง เดอะซาวด์ อ๊อฟ ไซเลนซ์ เป็นเพลงเศร้า Love and peace เป็นเพลงประกอบหนัง the Graduate (1967) และหนังเรื่อง WATCHMEN(2009) ฉากงานศพของ the COMEDIAN
ราวกับจะบอกถึงเสียงแห่งความเงียบที่ค่อยๆ ดังขึ้นในจิตใจของเหล่าฮีโร่ที่ถูกปฏิเสธว่าความปรารถนาที่คิดว่าสวยงาม และดีงามของพวกเขาก็ได้แต่เพียงดังอยู่ในความเงียบ
➤➤➤➤➤➤➤➤➤➤➤➤
"The Sound of Silence"
The Artist – Simon & Garfunkel
Album - The Sound of Silence
Hello darkness, my old friend สวัสดี ความมึด เจ้าเพื่อนเก่าของฉัน
I’ve come to talk with you again เรากลับมาพูดคุยกันอีกครั้งนาาา
Because a vision softly creeping ภาพบรรยากาศเริ่มคืบคลานเข้ามา
Left its seeds while I was sleeping ปล่อยเมล็ดพันธ์เติบโตยามฉันหลับไหล
And the vision that was planted และภาพบรรยากาศนั้นถูกบ่มเพาะin my brain Still remains ในหัวของฉัน มิอาจลืมเลือน
Within the sound of silence ด้วยเสียงแห่งความเงียบเหงา
Because a vision softly creeping ภาพบรรยากาศเริ่มคืบคลานเข้ามา
Left its seeds while I was sleeping ปล่อยเมล็ดพันธ์เติบโตยามฉันหลับไหล
And the vision that was planted และภาพบรรยากาศนั้นถูกบ่มเพาะin my brain Still remains ในหัวของฉัน มิอาจลืมเลือน
Within the sound of silence ด้วยเสียงแห่งความเงียบเหงา
In restless dreams I walked alone ในฝันอันเหนื่อยล้าฉันเดินตามลำพัง
Narrow streets of cobblestone ตามถนนแคบๆที่ปะปนด้วยก้อนหิน
‘Neath the halo of a street lamp มีแสงสลัวของแสงไฟตามแนวถนน
I turn my collar to the cold and damp ฉันเดินไปตามทางที่หนาวและแฉะ
When my eyes were stabbed ยามนั้นสายตาของฉันถูกกระทบ
Narrow streets of cobblestone ตามถนนแคบๆที่ปะปนด้วยก้อนหิน
‘Neath the halo of a street lamp มีแสงสลัวของแสงไฟตามแนวถนน
I turn my collar to the cold and damp ฉันเดินไปตามทางที่หนาวและแฉะ
When my eyes were stabbed ยามนั้นสายตาของฉันถูกกระทบ
by the flash of a neon light ด้วยแสงไฟนีออล
That split the night นั่น..ฉันถึงรู้สึกได้ว่าเป็นกลางคืน
And touched the sound of silence และสัมผัสได้ถึงเสียงของความเงียบเหงา
That split the night นั่น..ฉันถึงรู้สึกได้ว่าเป็นกลางคืน
And touched the sound of silence และสัมผัสได้ถึงเสียงของความเงียบเหงา
And in the naked light I saw และท่ามกลางแสงสว่างไสวฉันมองเห็น
Ten thousand people maybe more ผู้คนมากมายเป็นหมื่น อาจมากกว่าด้วย
People talking without speaking ผู้คนเหล่านั้นพูดกันปราศจากการพูดคุย
People hearing without listening ผู้คนเหล่านั้นได้ยินปราศจากการฟังกัน
People writing songs that voices ผู้คนเหล่านั้นเขียนเพลงปราศจากสำเนียง
Ten thousand people maybe more ผู้คนมากมายเป็นหมื่น อาจมากกว่าด้วย
People talking without speaking ผู้คนเหล่านั้นพูดกันปราศจากการพูดคุย
People hearing without listening ผู้คนเหล่านั้นได้ยินปราศจากการฟังกัน
People writing songs that voices ผู้คนเหล่านั้นเขียนเพลงปราศจากสำเนียง
never shared ไม่มีการเผยแพร่
No one dared ไม่มีใครมีความกล้าพอ
Disturb the sound of silence ที่จะรบกวนเสียงแห่งความเงียบเหงา
No one dared ไม่มีใครมีความกล้าพอ
Disturb the sound of silence ที่จะรบกวนเสียงแห่งความเงียบเหงา
“Fools,” said I, “you do not know ฉันพูดว่า..โง่จริง..คุณไม่รู้เลยหรือว่า..
Silence like a cancer grows ความเงียบคล้ายกับเชื้อมะเร็งที่เติบโต
Hear my words that I might teach you ได้ยินคำพูดของฉันไหม.. ฉันจะสอนคุณ
Take my arms that I might reach you” เข้ามาสู่อ้อมแขนของฉัน..ฉันจะจูงคุณเอง
But my words like silent raindrops fell แต่คำพูดของฉันคล้ายหยดน้ำฝนตกเงียบๆ
And echoed in the wells of silence และเสียงสะท้อนยังอยู่ในความเงียบงัน
Silence like a cancer grows ความเงียบคล้ายกับเชื้อมะเร็งที่เติบโต
Hear my words that I might teach you ได้ยินคำพูดของฉันไหม.. ฉันจะสอนคุณ
Take my arms that I might reach you” เข้ามาสู่อ้อมแขนของฉัน..ฉันจะจูงคุณเอง
But my words like silent raindrops fell แต่คำพูดของฉันคล้ายหยดน้ำฝนตกเงียบๆ
And echoed in the wells of silence และเสียงสะท้อนยังอยู่ในความเงียบงัน
And the people bowed and prayed และผู้คนต่างคุกเข่าและสวดอ้อนวอน
To the neon god they made ต่อพระเจ้าที่่พวกเขาสร้างขึ้นมา
And the sign flashed out its warning และแล้วแสงส่องคล้ายสัญญาณเตือน
In the words that it was forming คำพูดนั้นเป็นแบบอย่างเดียวกัน
And the sign said และสัญลักษณ์นั้นบอกว่า..
To the neon god they made ต่อพระเจ้าที่่พวกเขาสร้างขึ้นมา
And the sign flashed out its warning และแล้วแสงส่องคล้ายสัญญาณเตือน
In the words that it was forming คำพูดนั้นเป็นแบบอย่างเดียวกัน
And the sign said และสัญลักษณ์นั้นบอกว่า..
“The words of the prophets are written คำพูดของผู้ทำนายถูกบัญญัติไว้..
on the subway walls บนฝาผนังรถไฟ
And tenement halls และบนห้องโถงบ้านพัก
And whispered in the sound of silence และมีกระซิบแผ่วเบาในเสียงแห่งความเงียบเหงา
And whispered in the sound of silence และมีกระซิบแผ่วเบาในเสียงแห่งความเงียบเหงา
➤➤➤➤➤➤➤➤➤➤➤➤
Do not allow what you cannot do,
Interfere with what you can do.
You can reach your dreams faster
Doing things you're good at.
อย่าปล่อยให้สิ่งที่คุณทำไม่ได้
มาเป็นอุปสรรคในการทำสิ่งที่คุณทำได้
คุณสามารถเอื้อมคว้าความฝันให้เร็วขึ้นได้
หากเลือกทำในสิ่งที่คุณรัก
Earn your success based on service to others, not at the expense of others.
จงทำงานให้สำเร็จด้วยการบริการผู้อื่น มิใช่ด้วยการทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
Find a job you love and gie it everything you”ve got.
หางานที่คุณรักให้เจอ แล้วทุ่มเททั้งชีวิตและจิตใจให้กับมัน
➤➤➤➤➤➤➤➤➤➤➤➤
Kru Noi Patcharin Kanwana
The English Teacher
(อ้างถึง :https://www.youtube.com/watch?v=SACeGmvxE1A )
No comments:
Post a Comment